วันเสาร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

รีวิว Acer aspire Switch 11



ครั้งหนึ่งในเวลาไม่นานนัก ได้เคยใช้สิ่งนี้ จึงอยากมาแสดงความเห็นเชิงรีวิวเผื่อใครสนใจ ยิ่งตอนนี้มีงานโมบาย (แต่มันก็ขายโน้ตบุ๊คด้วยนั่นแหล่ะ) ราคาลงรัวๆ และแม้จะผ่านงานโมบายไปแล้ว ราคาก็ถูกมากอยู่ดี


สำหรับตัวที่ได้รีวิว สเป็คดังนี้
CPU : Intel Core i5 4202Y 1.6 GHz
GPU : Intel HD Graphic 4200
Ram : DDR3L 4 GB
SSD 128G + HDD 500 GB on keyboard
Display : 11.6" IPS Multi Touch 1920x1080 Full HD
Stylus : Acer active Pen

มันคือโน้ตบุ๊คขนาดเล็ก ที่ทำตัวเองให้เป็นแทบเล็ตได้นั่นเอง จึงสามารถใช้ได้ทั้งแบบโน้ตบุ๊คและแบบแทบเล็ต ด้วยอาการกึ่งๆ ครึ่งๆ กลางๆ ไปทางไหนก็ไม่สุด แต่ไปได้ทุกทาง จึงต้องดูลักษณะการใช้งานด้วยว่าใครอยากใช้งานแบบไหน
ด้วย CPU Core i สุดแรงแซงแทบเล็ตทั่วไปที่ใช้ CPU Atom เรียกได้ว่าเกือบๆ เท่าโน้ตบุ๊ค ทำให้การประมวลผลและใช้งานทั่วไปได้ดีและรวดเร็ว แทบไม่ต่างจากโน้ตบุ๊คก็ว่าได้ แถมเป็นรหัส Y ซึ่งจะประหยัดพลังงานกว่ารหัส U (ของโน้ตบุ๊ค) พอสมควรทีเดียว ทำให้ใช้งานได้ยาวนานกว่าอย่างเห็นได้ชัด
หน้าจอขนาด 11.6 นิ้ว หากเป็นการใช้งานแบบแทบเล็ตจึงดีเยี่ยม ไม่ใหญ่จนเกะกะ ไม่หนักจนพกลำบาก ทัชสกรีนดีและแม่นยำ แต่พอใช้งานเป็นโน้ตบุ๊คเลยกลายเป็นจอเล็กไปเลย ดูอะไรลำบากนิดหน่อย แม้จะขยายไอคอนและข้อความขึ้นมาเป็น 200% แต่ก็ไม่ใช่ทุกโปรแกรมจะรองรับ ตรงนี้ หากใครใช้งานเอกสาร เล่นเน็ตทั่วไป คงไม่เป็นอะไรมากเท่าไหร่
ด้วยความที่ตัวเครื่องไม่มีช่องระบายอากาศ และออกแบบไม่ให้มีพัดลม เมื่อใช้งานไปจน CPU ร้อน ทำให้ความร้อนนั้นเกิดการสะสมได้ง่าย แต่ก็แลกมากับการที่ไม่มีเสียงพัดลมกวนใจ ทั้งยังประหยัดแบ็ตในส่วนพัดลมได้ด้วย
กล้องที่ให้มา มีเพียงด้านหน้าแบบ fix focus 2 ล้านพิกเซลเท่านั้น และคุณภาพก็แย่มาก กล้องหน้าโทรศัพท์มือถือสมัยนี้ยังชัดกว่า แม้แต่ Acer Crystal eye webcam ของค่ายตัวเองเมื่อหลายปีก่อน ยังจะชัดกว่าเลย ถือว่าสอบตกเรื่องกล้องไปโดยปริยาย แถมไม่มีกล้องหลังด้วย ใครที่ชอบถ่ายรูปกรุณาลืมมันไป
สิ่งที่เหมือนเป็นจุดเด่นอีกอย่างคือ ที่คีย์บอร์ด จะมี HDD ขนาด 500 GB แถมมาให้ ทำให้เมื่อรวมร่างกันเป็นโน้ตบุ๊ค สามารถเก็บข้อมูลเพิ่มได้อีกมาก เหมาะสำหรับข้อมูลที่ไม่ค่อยเรียกใช้บ่อยๆ หรือเก็บถาวร เพราะเมื่อถอดจอไปเป็นแทบเล็ต จะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นได้นั่นเอง น่าเสียดายที่ไม่แถมแบ็ตมาให้ที่คีย์บอร์ด ซึ่งจะช่วยให้การใช้งานนั้นยาวนานขึ้นกว่าเดิมมากทีเดียว
สำหรับปากกา Acer Active Pen ซึ่งใช้แบตเตอรี่ขนาด AAAA 1 ก้อนนั้น หากนำมาขีดๆ เขียนๆ จดบันทึกอะไรแล้ว ถือว่าใช้งานได้ดี เพราะปากกามีการรองรับแรงกด ไม่ใช่เป็นแบบปากกาหัวมนใช้แทนนิ้ว หากแต่จะนำมาใช้งานวาดรูป ซึ่งต้องใช้ความประณีตและใช้ความแม่นยำของแรงกดสูงนั้น บอกเลยว่าไม่ผ่าน ปากกาเอเซอร์ ไม่สามารถใช้งานได้ดีสำหรับการวาดรูปเลย
สำหรับแบตเตอรี่ หากดูที่ความจุจะอยู่ที่ 2,850 mAh ซึ่งดูน่าตกใจมากว่าทำไมมันน้อยนัก ยังสู้แทบเล็ตแอนดรอยด์บางยี่ห้อไม่ได้เสียอีก แต่การใช้งานนั้นทางเอเซอร์กล่าวว่าได้ถึง 6 ชั่วโมง ซึ่งเอาจริงๆ ตีไว้ 4-5 ชั่วโมงก็พอแล้ว และด้วยความที่มันเป็นโน้ตบุ๊ค ทำให้การชาร์จไฟด้วย Power Bank แบบแทบเล็ตทั่วไปนั้น ไม่สามารถทำได้ หากเล่นจนแบ็ตหมดนอกสถานที่ ก็ต้องวิ่งหาปลั๊กกันอย่างเดียว
พอร์ตเชื่อมต่อ มี USB 3.0 ขนาด Full Size มาให้ ทำให้การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ใดๆ นั้นทำได้สะดวก ไม่ต้องหาหัวแปลงมาต่อให้วุ่นวาย นอกจากนั้นยังมีพอร์ต Micro HDMI เพื่อเชื่อมต่อออกหน้าจออื่นได้อีก ที่คีย์บอร์ดก็ยังมี USB 2.0 ให้อีก 1 พอร์ต หากใช้งานแบบโน้ตบุ๊คก็ใช้ต่อเมาส์ได้สบาย ตัวเครื่องไม่รองรับการใส่ซิมส์ ดังนั้น หากจะเล่นอินเตอร์เน็ต จำเป็นต้องต่อผ่าน Wifi, Mifi หรือ Aircard เท้่านั้น
การพกพา หากเป็นเพียงแทบเล็ตนั้น ถือว่าเบาและพกพาง่าย แต่หากใส่คีย์บอร์ดลงไปด้วยแล้ว น้ำหนักจะขึ้นไปถึง 1.7 กิโลกรัม ทำให้เริ่มหนัก และรู้สึกว่า มันไม่ใช่แทบเล็ตแล้ว ซึ่งก็แน่นอน เพราะมันเป็นโน้ตบุ๊คนี่นา

สรุป
ด้วยราคาเปิดตัวอย่างโหดร้าย 29,900 แพงกว่า Surface Pro 3 รุ่นล่างสุดเสียอีก ทำให้การจะเลือกซื้อนั้นอาจต้อง คิด วิเคราะห์ แยกแยะ เยอะหน่อย แต่ด้วยตอนนี้ราคาลงฮวบฮาบจนเหลือเพียง 19,900 ทำให้การตัดสินใจเลือกซื้อนั้นง่ายขึ้นมาก และหากใครที่ต้องการคอมพิวเตอร์ติดตามตัวแบบครบครัน ทั้งทำงานและเล่น ต้องบอกว่า Acer aspire switch 11 นี้เหมาะทีเดียว จากที่ใช้งานดู พบกว่าการถอดหน้าจอไปเป็นแทบเล็ตแล้วถือไปทำงานหรือเล่นนอกสถานที่เป็นอะไรที่คล่องตัว และหากกลับมานั่งที่โต๊ะ ก็ใส่คีย์บอร์ดใช้งานเป็นโน้ตบุ๊คได้ เพียงแต่เพราะปากกาที่ไม่โอเคกับการวาดรูปเป็นอย่างมาก หากใครที่ซีเรียสเรื่องปากกาต้องมองผ่านมันไปได้เลย แต่ถ้าชอบดีไซน์และประสิทธิภาพ จะไปซื้อปากกา Bluetooth มาใช้เพิ่มก็ไม่เสียหายแต่อย่างใด
เหมาะสม ดีงาม : กับผู้ใช้งานทั่วไป ทำงานเอกสาร ที่ต้องการคีย์บอร์ด และเดินทางบ่อยๆ
อย่าสนใจเลย : กับผู้ใช้งานปากกาอย่างจริงจัง วาดรูป และผู้ที่ชอบถ่ายรูป


มันเท่ มันสวย มันดูดี ประสิทธิภาพสูง คล่องตัว ราคาถูก(แล้วในตอนนี้) เสียก็แต่ปากกา ที่ยังห่างชั้นกับ Galaxy Note (Wacom) มากนัก นอกจากนั้นแล้วถือว่าทำได้ดีในหลายๆ อย่าง หากใครมองๆ แทบเล็ตวินโดวส์ในราคาไม่แพงมากอยู่ Switch 11 ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจจริงๆ ครับ

หมายเหตุ : ขณะเขียนรีวิว ของไม่อยู่กับตัวแล้ว และตอนถ่ายภาพก็ไม่กะจะทำรีวิว ตอนนี้จึงไม่สามารถทดลองหรือถ่ายภาพเพิ่มเติมได้อีก